Consumer Products Times
SEE OTHER BRANDS

Your top news on consumer products

เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัว แต่ความเชื่อมั่นถดถอย สัญญาณ “Vibecession” เริ่มปรากฏ

กราฟเส้นสองเส้นตัดกัน สีเขียวพุ่งขึ้นและสีแดงลดลง บนฉากหลังธงอินโดนีเซีย แสดงถึงช่องว่างระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียกับความเชื่อมั่นของประชาชนที่อ่อนแรง – EBC

การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียสะท้อนความต่างกับความเชื่อมั่นที่ลดลง โดยแสดงผ่านกราฟเส้นขึ้นและลงตัดกันบนฉากหลังธงชาติ

EBC Financial Group เตือนความเสี่ยง “Vibecession” แม้ GDP ไตรมาส 2 โต 5.12% แซงคาด แต่ผู้บริโภค-ธุรกิจยังระวังตัว

INDONESIA, August 14, 2025 /EINPresswire.com/ -- เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัว 5.12% เมื่อเทียบกับปีก่อนในไตรมาส 2 ปี 2025 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2023 ได้แรงหนุนจากการลงทุนและการส่งออกที่แข็งแกร่งก่อนการบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการลงทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 7% ในไตรมาสนี้ ขณะที่การส่งออกขยายตัวจากความคาดหวังต่อมาตรการการค้าใหม่

นักวิเคราะห์จาก EBC Financial Group (EBC) อธิบายสถานการณ์นี้ว่าเป็นตัวอย่างชัดเจนของ “วิบเซสชัน” (Vibecession) ซึ่งหมายถึงภาวะที่ตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้การเติบโต แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจกลับอ่อนตัวลง

ภาษีสหรัฐฯ สะเทือนการส่งออกกุ้งอินโดนีเซีย

การเก็บภาษี 19% ของสหรัฐฯ ต่อกุ้งจากอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกทะเลอันดับหนึ่งของประเทศไปยังตลาดสหรัฐฯ กำลังจะเปลี่ยนเส้นทางการค้าครั้งใหญ่ ผู้นำอุตสาหกรรมคาดว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ จะลดลงอย่างมาก โดยผู้ประกอบการเตรียมปรับทิศทางการส่งออกไปยังตลาดจีน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2% ของการส่งออกกุ้งทั้งหมด นักวิเคราะห์จาก EBC ประเมินว่ามาตรการภาษีนี้อาจทำให้ปริมาณการส่งออกโดยรวมลดลงสูงสุดถึง 30% และอาจกระทบต่อการจ้างงานในภาคส่วนนี้มากถึงหนึ่งล้านตำแหน่ง

“เครื่องยนต์เศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังเดินหน้าอยู่ แต่กำลังเผชิญภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนมากขึ้น” ซามูเอล เฮิร์ตซ์ หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่ง EBC Financial Group กล่าว “ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ชะลอตัว และความระมัดระวังในการลงทุน กำลังดำเนินไปพร้อมกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ”

อุปสงค์ในประเทศอ่อนแรง

สมาคมนายจ้างอินโดนีเซีย (Apindo) เตือนว่าหลายธุรกิจขณะนี้กำลังดำเนินงานในโหมด “เอาตัวรอด” เลื่อนแผนขยายกิจการออกไป และหันมาเน้นการควบคุมต้นทุนแทน

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอินโดนีเซียลดลงสู่ระดับ 117.5 ในเดือนพฤษภาคม ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022 สะท้อนถึงความกังวลที่ลึกขึ้นเกี่ยวกับกำลังซื้อและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แม้ว่าความเชื่อมั่นในอนาคตของบางครัวเรือนยังคงมีความระมัดระวังแบบมองบวก แต่รายได้จริงและความมั่นคงในการจ้างงานกำลังถูกบั่นทอนอย่างเงียบ ๆ

ในภาคค้าปลีก ธุรกิจกำลังเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัว ตามรายงานของ SCMP ศูนย์การค้าอาจดูคึกคัก แต่จำนวนผู้ซื้อจริงน้อยลง โดยมี “คนเดินดูของมากกว่าคนซื้อ” เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในจาการ์ตาระบุว่าจำนวนลูกค้าลดลงกว่า 50% หลายคนตัดสินใจงดสั่งเครื่องดื่มหรือของหวาน ส่งผลให้ต้องปรับลดราคาลงราว 20% เพื่อดึงให้ลูกค้ากลับมา

เปิดช่องกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่เสถียรภาพการเงิน

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอินโดนีเซียในเดือนกรกฎาคม 2025 เพิ่มขึ้น 2.37% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงมาอยู่ที่ 2.32% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา ทั้งสองตัวเลขยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางอินโดนีเซียที่ 1.5–3.5% ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถดำเนินมาตรการเพิ่มเติมได้ หากสภาพเศรษฐกิจอ่อนแรงลง

งบประมาณแผ่นดินปี 2025 คาดการณ์เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% และกำหนดเพดานขาดดุลการคลังไว้ที่ 2.53% ของ GDP ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับรอบคอบตามมาตรฐานสากล การผสมผสานระหว่างเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับควบคุมได้และการบริหารการคลังอย่างมีวินัยนี้ ทำให้มีพื้นที่สำหรับมาตรการกระตุ้นแบบเจาะจง หากแรงขับเคลื่อนการเติบโตชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก EBC ชี้ว่า มาตรการกระตุ้นเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะอุด “ช่องว่างความเชื่อมั่น” การฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนอย่างยั่งยืนมีแนวโน้มต้องอาศัยการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ลึกขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการเสริมสร้างระบบสวัสดิการสังคม ปรับปรุงความยืดหยุ่นของตลาดแรงงาน และสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบให้แก่ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

ตลาดจับตาอินโดนีเซียคุมราคาน้ำมันพืช

รัฐบาลอินโดนีเซียเดินหน้าควบคุมราคาน้ำมันพืชและดูแลปริทัศน์ในประเทศ สร้างความสนใจจากนักลงทุน โดยหน่วยงานการค้าสั่งให้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มเพิ่มภาระการส่งออกในประเทศ (Domestic Market Obligation: DMO) เป็น 175,000 เมตริกตันต่อเดือนจนถึงสิ้นปี จากเฉลี่ย 157,500 ตันในไตรมาส 2 และได้ขยับขึ้นถึง 204,559 ตันในเดือนกรกฎาคม มาตรการนี้มีเป้าหมายสกัดราคาน้ำมันพืชแบรนด์ “Minyakita” ที่ล่าสุดซื้อขายที่ 16,699 รูเปียห์ต่อลิตร สูงกว่าราคาที่กำหนด

แม้มุ่งรักษาเสถียรภาพในประเทศ แต่นโยบายดังกล่าวอาจทำให้ปริมาณส่งออกตึงตัว กระทบเส้นทางการค้าสินค้าน้ำมันพืชโลก และกดดันมาร์จิ้นของผู้ส่งออก การปรับสมดุลนี้สะท้อนว่าผู้กำหนดนโยบายให้ความสำคัญกับการรักษาราคาในประเทศควบคู่กับการรักษาความสามารถแข่งขันในตลาดโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นและค่าเงินที่ผูกกับสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนมากขึ้น

นักวิเคราะห์จาก EBC สรุปว่า บริษัทที่พึ่งพารายได้จากการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันปาล์มและการขนส่ง อาจเผชิญผลกระทบต่อกำไร ขณะที่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศอาจได้ประโยชน์จากอุปทานและการควบคุมราคาที่ดีขึ้น หากนโยบายสามารถพยุงราคาสินค้าให้จับต้องได้ตามที่ตั้งเป้า

แนวโน้มเศรษฐกิจ: ทดสอบความแข็งแกร่งของอินโดนีเซีย

ตัวเลขไตรมาส 2 ของอินโดนีเซียสะท้อนความก้าวหน้าต่อเนื่อง แต่ยังมีคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของแรงขับเคลื่อนนี้ นักวิเคราะห์จาก EBC จับตาว่าการบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหรือไม่ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเสถียรหรือไม่ หากไม่มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ลึกขึ้น ความยืดหยุ่นในระยะยาวอาจขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนจากมาตรการกระตุ้นระยะสั้นไปสู่การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยผลิตภาพอย่างยั่งยืน

หมายเหตุ: บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และบริษัทในเครือทั่วโลก ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเกินกว่าการลงทุนเริ่มต้น ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณสมบัติก่อนตัดสินใจลงทุนใด ๆ EBC Financial Group และบริษัทในเครือไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ จากการอ้างอิงข้อมูลนี้

สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เยี่ยมชม www.ebc.com.

### 

เกี่ยวกับ EBC Financial Group

ก่อตั้งในย่านการเงินชื่อดังของลอนดอน EBC Financial Group (EBC) เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโบรกเกอร์การเงินและการบริหารสินทรัพย์ ผ่านหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในหลายตลาดหลัก เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หมู่เกาะเคย์แมน มอริเชียส และอื่น ๆ EBC ช่วยให้นักลงทุนรายย่อย มืออาชีพ และสถาบันเข้าถึงโอกาสการลงทุนและตลาดโลกหลากหลายประเภท ครอบคลุมสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และดัชนีต่าง ๆ

EBC ได้รับรางวัลหลายรางวัลและยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรม หน่วยงานในเครือทุกแห่งได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EBC Financial Group (UK) Limited โดย Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร, EBC Financial Group (Cayman) Limited โดย Cayman Islands Monetary Authority (CIMA), EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd และ EBC Asset Management Pty Ltd โดย Australian Securities and Investments Commission (ASIC), และ EBC Financial (MU) Ltd โดย Financial Services Commission Mauritius (FSC)

แกนหลักของ EBC คือทีมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี ผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจสำคัญ ตั้งแต่ Plaza Accord วิกฤตฟรังก์สวิสปี 2015 ไปจนถึงความปั่นป่วนของตลาดในช่วงการระบาดของ COVID-19 บริษัทสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้า เพื่อให้ทุกความสัมพันธ์กับนักลงทุนได้รับการดูแลอย่างจริงจัง

ในฐานะพันธมิตรทางการเงินต่างประเทศอย่างเป็นทางการของ FC Barcelona EBC ให้บริการเฉพาะด้านในภูมิภาคเอเชีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย ผ่านความร่วมมือกับ United to Beat Malaria บริษัทมีส่วนสนับสนุนโครงการด้านสุขภาพระดับโลก นอกจากนี้ EBC ยังสนับสนุนโครงการสาธารณะ “What Economists Really Do” ของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และการประยุกต์ใช้ต่อความท้าทายของสังคม พร้อมส่งเสริมการรับรู้และบทสนทนาที่กว้างขึ้นในสาธารณะ

https://www.ebc.com/

Michelle Siow
EBC Financial Group
michelle.siow@ebc.com
Visit us on social media:
LinkedIn
Instagram
Facebook
YouTube
X
Other

Legal Disclaimer:

EIN Presswire provides this news content "as is" without warranty of any kind. We do not accept any responsibility or liability for the accuracy, content, images, videos, licenses, completeness, legality, or reliability of the information contained in this article. If you have any complaints or copyright issues related to this article, kindly contact the author above.

Share us

on your social networks:
AGPs

Get the latest news on this topic.

SIGN UP FOR FREE TODAY

No Thanks

By signing to this email alert, you
agree to our Terms & Conditions